มัลดีฟส์ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์บนดิน ความสวยงามที่ธรรมชาติรังสรรค์มาให้กับมัลดีฟส์กว่า 30 ล้านปี จากภูเขาไฟทะเลที่ค่อย ๆ ทรุดตัวลง จนเหลือเพียงแนวปะการังที่แต่เดิมเกาะอยู่รอบ ๆ ภูเขาไฟทะเลนั้น กลายเป็นวงแหวนปะการังที่เกิดเป็นลากูนที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติตั้งแต่บนบกยันถึงในท้องทะเล ฝูงปลาน้อยใหญ่ ทั้งหมดนี่เป็นเพียงองค์ประกอบที่ทำให้มัลดีฟส์เป็นสวรรค์บนดิน ดินแดนแห่งธรรมชาติอย่างแท้จริง
แต่ก่อนจะพูดถึงความพิเศษของความสวยงามของมัลดีฟส์นี่ ผมมีอีกสิ่งที่จะต้องบอกว่าคุณห้ามพลาดและพลาดไม่ได้เลยจริง ๆ เพราะความพิเศษของการไปมัลดีฟส์เริ่มที่!! การเดินทางไปยังรีสอร์ทด้วย Seaplane หรือเครื่องบินน้ำนั่นเองครับ และในวันนี้ผมจะมาพูดถึงประสบการณ์การนั่ง Seaplane แบบละเอียดก่อนที่คุณจะไปนอนกลางน้ำอย่างสำราญ
การเดินทางสู่มัลดีฟส์ จากประเทศไทยเราสามารถเดินทางได้จากหลายสายการบินครับ มีทั้งแบบรวดเดียวถึงเลย หรือแบบต่อเครื่องก็มี ราคาก็จะไม่แพงมาก เป็นเที่ยวบินชั้นประหยัด จะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อเรามาถึงสนามบินมาเล่แล้ว
ทางรีสอร์ทจะมีรถมารับที่ Terminal เพื่อไปอีกมุมหนึ่งของสนามบินที่เป็นลานจอด Seaplane โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเครื่องของใครของมันกันเลย เครื่องบินของแต่ละรีสอร์ทจะจอดเรียงกันให้อารมณ์เป็น Taxi บ้านเราเลยครับที่กำลังจอดรอผู้โดยสาร ส่วนใครที่มาถึงเร็วไปหน่อย ต้องรอเวลาเดินทางเค้าก็มีเล้าจ์ขนาดใหญ่ไว้รับรองผู้โดยสารโดยเฉพาะ
เรียกได้ว่าอยู่หรู ๆ ตั้งแต่ยังไม่เดินทางเลยจริง ๆ ครับ แถมยังมีพนักงานคอยดูแลกระเป๋าสัมภาระให้อย่างดีตั้งแต่เราถึง Terminal จนกระทั่งขึ้นเครื่องบิน Seaplane พนักงานก็ยกกระเป๋าขึ้นให้เลย
หมดห่วงเรื่องสัมภาระครับ คุณจะไม่ได้มีโอกาสแบกสัมภาระอีกแล้วครับเมื่อคุณถึง Terminal เพราะทางพนักงานจะเข้ามาจัดการให้คุณเองเลย ไม่ต้องกังวลว่าจะหายหรือใด ๆ ทั้งสิ้นครับ เค้าติดป้ายชื่อ ป้ายโรงแรม กันเป็นระบบมาก ๆ แล้วมันจะถูกพาขึ้น Seaplane ไปกับคุณด้วยเลย สบายใจหายห่วงได้เลย
สาเหตุที่เราต้องเดินทางด้วย Seaplane เพราะที่พักของเรานั้นไม่ได้อยู่ที่ มาเล่ อะทอลล์ เราจะไม่สามารถนั่งเรือ Speed boat ไปได้ เพราะมันไกลมาก ๆ ครับ ยกตัวอย่างนะครับ โดยปกติแล้วเครื่องบินที่เรามามัลดีฟส์จะมาจอดที่สนามบิน มาเล่ อะทอลล์ สมมติว่าที่พักเราอยู่ที่ บาร์ อะทอลล์ เราจะต้องเลือกระหว่างนั่ง Seaplane หรือ สายการบินในประเทศ (Domestic flight) ไปครับ โดยเครื่องบิน Domestic flight นั้นจะบินไปยังสนามบินท้องถิ่นของแต่ละอะทอลล์ แล้วเรายังจำเป็นจะต้องนั่งเรือ Speed boat ต่อไปยังรีสอร์ทที่พักของเรา ส่วน Seaplane นั้นจะบินตรงไปยังที่พักของเราเลยโดยไม่ต้องนั่งเรืออีกต่อ แต่หากที่พักเราอยู่ใน มาเล่ อะทอลล์ ก็จะต้องเดินทางด้วย Speedboat ไปเลย จะนั่ง Seaplane ไม่ได้นะครับเพราะมันใกล้เกินไปไม่มีจัดให้บริการนะครับ
แต่ไฮไลท์ที่สุดในการขึ้น Seaplane คือการได้ชื่นชมวิวของหมู่เกาะมัลดีฟส์ในมุม Top View ที่จะเห็นการเรียงตัวของหมู่เกาะเป็นรูป “ไข่ดาว”
นี่เป็นที่สุดของวิวที่คุณห้ามพลาดเด็ดคลาดเมื่อคุณมาถึงมัลดีฟส์แล้ว และทางเดียวที่เราจะได้สัมผัส และได้เห็นวิวนี่อย่างชัดเจนจะต้องขึ้นเครื่อง Seaplane เท่านั้น!! เพราะระดับความสูงที่เครื่อง Seaplane จะไม่ได้เป็นระดับความสูงที่เทียบเท่ากับเครื่องบิน Domestic flight เพราะที่ระดับความสูงที่เครื่อง Domestic flight บินนั้นจะเห็นวิวไกลกว่าหน่อยที่อาจจะไม่ชัดเท่ากับขึ้น Seaplane ครับ และถึงแม้ว่าเราจะเลือกเดินทางไปที่พักด้วย Speed boat ไปถึงที่พัก บางที่พักก็จะมีแนะนำแพ็คเกจที่จะพาคุณไปชม Sightseeing บน Seaplane เพื่อพาคุณไปดูวิวหมู่เกาะรูป “ไข่ดาว” อยู่ดีครับ และแน่นอนว่าถ้าเพื่อน ๆ เกิดสนใจขึ้นมามีค่าใช้จ่ายเพิ่มอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นส่วนตัวผมแนะนำเลยครับ ไปมัลดีฟส์ทั้งที่ก็เลือกขึ้น Seaplane ไปเลยครับคุ้มแน่นอน
เมื่อถึงเวลาออกเดินทางเราจะสัมผัสได้เลยว่าห้องโดยสารของ Seaplane จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก เป็นห้องโดยสารแบบปิด มีพนักงานดูแลตลอดการเดินทาง น่ารักและเฟรนด์ลี่จริง ๆ ครับ
หากถามถึงความปลอดภัยแล้วละก็ บอกเลยว่าการเดินทางด้วย Seaplane นั้นเข้มงวดในเรื่องนี้มาก หากวันไหนสภาพอากาศไม่อำนวย กัปตันก็จะไม่นำเครื่องขึ้นเลยครับ และโดยปกติหลัง 4 โมง Seaplane เหล่านี้ก็จะไม่มีบินขึ้นแล้วครับ เป็นมาตรการด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นหากจะขึ้น Seaplane เข้าที่พัก ก็ต้องเลือกเวลาเดินทางช่วงเช้า ๆ กันหน่อยนะครับ ส่วนเรื่องการเมาเครื่องบินโดยส่วนตัวผมว่าไม่เมานะครับ ใครที่กลัว ๆ อยู่ก็หายห่วงได้
ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 25-50 นาทีก็มาถึงรีสอร์ทโดย Seaplane ของเราจะจอดที่โป๊ะของ Resort ที่อยู่กลางทะเลจากนั้นจึงนั่งเรือ Dhoni เข้ามาที่ Jetty (เป็นทางเดินยาว ๆ จาก Resort ที่ทอดลงไปยังทะเลแบบที่เราน่าจะคุ้นตากัน) และจึงเดินเข้าไปยังตัวรีสอร์ท หรืออาจจะมีรีสอร์ทบางแห่งที่ Seaplane จอดที่ Resort เลย ก็ขึ้นอยู่กับ Resort ด้วยครับว่าตั้งอยู่ในบริเวณที่น้ำลึกหรือตื้น หากน้ำตื้น Seaplane ก็จะไม่สามารถลงจอดได้ทาง Resort ก็จะมีโป๊ะที่ตั้งอยู่กลางทะเลอีกที และเมื่อคุณถึงที่พักคุณจะถูกต้อนรับสุดพรี่เมี่ยมและต่อจากนี้จะเป็นความทรงจำสุดพิเศษของคุณที่ “มัลดีฟส์”
ทั้งหมดนี่ก็เป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่พบแนะนำไม่อยากให้เพื่อน ๆ ที่กำลังจะไปมัลดีฟส์พลาดกันนะครับ เพราะความพิเศษของการไปเที่ยวที่มัลดีฟส์นั้นเริ่มต้นตั้งแต่การเดินทางหลังจากที่เพื่อน ๆ มาถึงสนามบินมาเล่ที่มัลดีฟส์แล้วละครับ ผมคงไม่อาจจะบรรยายทุกความรู้สึกของการได้อยู่บนเครื่อง Seaplane ได้ดีเท่ากับการที่คุณได้ไปสัมผัสได้ด้วยตัวเอง แต่ผมกล้าพูดได้เลยครับว่านี่จะเป็นประสบการณ์ที่คุณจะเก็บไว้เล่าให้เพื่อน ๆ ให้ลูก ๆ ให้ครอบครัวคุณฟังกันได้ไปอีกนาน และมันจะเป็นประสบการณ์ที่คุณจะลืมไม่ลง เพราะตอนที่ผมเขียนอยู่ ณ ตอนนี้ผมก็นึกถึงมันอยู่เช่นกัน