มัลดีฟส์ จุดหมายปลายทางการพักร้อนที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น จนกระทั่งมีโอกาสได้ไปสัมผัสมัลดีฟส์ด้วยตัวเอง แต่! การไปในแต่ละครั้งอาจจะไม่เหมือนใคร เพราะเราอยากแตกต่าง อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ และอยากเที่ยวแบบประหยัดงบ ก็เลยเลือกเที่ยวมัลดีฟส์สไตล์ Local นั่นเองค่ะ
ใครที่อยากรู้ว่า การเที่ยวแบบ Local ที่มัลดีฟส์คืออะไร น่าสนใจยังไง วันนี้เราจะมารีวิวประสบการณ์เที่ยวสไตล์ใหม่นี้ให้ทุกคนได้รู้กัน กับ 3 เกาะลับส่วนตัวที่รู้กันเฉพาะคนท้องถิ่น อาจไม่มีรีสอร์ทหรู แต่สำหรับใครที่อยากลองมาสัมผัสวิถีชีวิตคนพื้นเมืองและอยากสัมผัสบรรยากาศวัฒนธรรมรวมถึง “ความเป็นมัลดีฟส์สไตล์ Local” ก็ลองตามไปดูกับรีวิวทั้ง 3 เกาะนี้กันเลยค่า
1. เกาะ Maafushi พักโรงแรมท้องถิ่น ใกล้ชิดวัฒนธรรมชาวเกาะ ที่ Kurumba Villa
เกาะ Maafushi เป็นเกาะใน Kaafu Atoll ที่อยู่ทางเหนือไม่ไกลจากเกาะหลักมาเล่ สามารถเดินทางมาได้ง่ายด้วย Speedboat และโรงแรมที่เราเลือกพักบนเกาะแห่งนี้ก็คือ Kurumba Villa นั่นเองค่ะ
โรงแรมระดับ 3 ดาวแห่งนี้ดูแลและดำเนินการโดยคนท้องถิ่น ขนาดโรงแรมไม่ใหญ่มาก หน้าตาคล้ายอพาร์ทเม้นท์รายวันทั่วไปของบ้านเรา แต่มีสถาปัตยกรรมและการตกแต่งกลิ่นอายมัลดีฟส์แท้ ๆ ห้องใหญ่ สวย สะอาดน่านอนสุด ๆ มี Wi-fi ฟรี เครื่องใช้และสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีครบ เพียงพอสำหรับการพักผ่อนในแต่ละวัน มีห้องน้ำในตัว และที่สำคัญระเบียงสามารถมองเห็นวิวทะเลสีฟ้าใสได้อีกด้วย
กิจกรรมหลักที่เราสามารถเข้าร่วมได้มีตั้งแต่กิจกรรมทางน้ำที่ถือเป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวมัลดีฟส์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการออกเรือตกปลา นั่งเรือดูปลาโลมา ไปจุดดำน้ำที่สามารถเจอปะการัง เต่าทะเล ฉลามและกระเบนราหู รวมถึงล่องเรือชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่นี่มีไกด์เป็นชาวประมงท้องถิ่นพาเราแล่นเรือเองด้วย สนุกและตื่นเต้น ได้บรรยากาศแปลกใหม่ไม่เหมือนใครเลยค่ะ ส่วนใครชอบเล่นกีฬาขอบอกว่าถึงจะเป็นเกาะท้องถิ่น แต่ก็มีครบทั้งเรือใบและเรือคายัคให้สนุกกันเต็มที่
นอกจากนี้ยังมีคลาสเรียนทำอาหารท้องถิ่น สนุกและอร่อยกับรสชาติอาหารพื้นเมืองแท้ ๆ ของชาวเกาะมัลดีฟส์ไปในคราวเดียวกัน เข้าเรียนแล้วต้องติดใจอยากเรียนต่ออีกคลาสแน่นอน หลังจากจบคลาสแล้วยังสามารถใช้จักรยานของทางโรมแรมที่มีบริการฟรี ปั่นเที่ยวรอบเกาะเพื่อชมวิถีชีวิตของชาวเมืองและเก็บภาพสวย ๆ ตามมุมต่าง ๆ ของเกาะได้อีกด้วย
ปิดท้ายแต่ละวันด้วยปาร์ตี้เวลากลางคืน ใครชอบปาร์ตี้บาร์บีคิวที่มีทั้งอาหารทะเลสด ๆ รสชาติปรุงจากเชฟท้องถิ่นโดยเฉพาะก็ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ เพราะเชฟของโรงแรมเป็นคนบนเกาะที่รับหน้าที่ทำอาหารบริการนักท่องเที่ยวทั้งอาหารบุฟเฟต์ทั้งสามมื้อรวมถึงอาหารพิเศษในปาร์ตี้ด้วย รับประกันความอร่อยได้เลย นอกจากนี้ยังมีคืนพิเศษที่มีการแสดงเพลงพื้นเมืองที่ชาวเกาะเรียกกันว่า Bodu-Beru อีกด้วย นั่งฟังเพลง กินอาหารอร่อย เคล้าคลอเสียงลมทะเล เป็นบรรยากาศที่ทั้งสงบและเพลิดเพลินที่สุดจริง ๆ
ก่อนกลับเราเก็บความประทับใจครั้งสุดท้ายกับ Kurumba Villa ด้วยการแต่งชุดเดรสสไตล์พื้นเมือง พร้อมถ่ายภาพเก็บความทรงจำ เป็นหนึ่งในประสบการณ์เที่ยวเกาะสไตล์ Local ที่จะประทับใจไม่รู้ลืมไปอีกนาน
2. เกาะ Gan Island สนุกสุดประทับใจ สัมผัสจุดดำน้ำที่ดีที่สุดกับ Equator Village Spa Resort
Gan Island หรือเกาะแกนคือหนึ่งในเกาะลับเฉพาะที่น้อยคนจะรู้ว่า “ที่นี่คือเกาะที่มีจุดดำน้ำที่ดีที่สุดในโลก” อีกแห่งหนึ่ง เกาะแกนเป็นเกาะที่อยู่ใต้สุดของมัลดีฟส์ ใน Addu Atoll สามารถเดินทางจากมาเล่มาได้โดยการนั่งเครื่องบิน Domestic flight เท่านั้น แต่ถึงจะอยู่ไกลเกาะหลักก็ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะที่นี่เป็นเกาะใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ต่างจากมาเล่เลยค่ะ และหลังจากเดินทางมาถึงสนามบินของเกาะแล้ว เราก็จะไปยังที่พักของเรา Equator Village Spa Resort ด้วย Shuttle bus ฟรีจากที่พัก
Equator Village Spa Resort เป็นที่พัก 4 ดาว มีขนาดกว้างขวาง ตกแต่งด้วยสีขาวเป็นหลัก ส่วนล็อบบี้และห้องอาหารหลักเปิดโล่งรับลมทะเล ห้องนอนตกแต่งเรียบง่าย สะอาดตา กว้างขวาง มีระเบียงและห้องน้ำส่วนตัว เป็นที่พักสไตล์ Local ที่สวยและประทับใจตั้งแต่เห็นครั้งแรก ส่วนเรื่องเครื่องใช้ต่าง ๆ ในห้องและสัญญาณอินเทอร์เน็ตก็มีบริการให้พร้อมสรรพ
กิจกรรมหลักสำหรับเราเมื่อได้มาเกาะแกนจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก การดำน้ำ! แต่เนื่องจากต้องการเสริมความมั่นใจให้ตัวเองสักหน่อย เลยจัดไปค่ะ ไปเรียนดำน้ำที่ Dive Center บนเกาะโดยที่เราเลือกลงคอร์สแบบ 7 วัน ไหน ๆ มาแล้วก็ต้องเที่ยวให้คุ้ม เรียนดำน้ำไปด้วยเที่ยวไปด้วยนี่ล่ะ! ซึ่งราคาคอร์สถือว่าถูกค่ะ ไม่แพงเกินงบแน่นอน หลังจากใช้เวลากับคอร์สเรียนจนจบ ซึ่งระหว่างฝึกก็เหมือนได้เที่ยวชมวิวใต้ทะเลไปในตัวอยู่แล้ว แต่มาถึงเกาะแกนทั้งทีเราก็อยากไปจุดที่เขาเรียกกันว่า Cleaning State ซึ่งเป็นจุดที่เรามีโอกาสได้เห็นฉลามมานอนนิ่ง ๆ ให้บรรดาปลาเล็กปลาน้อยมาทำความสะอาดตัวของมัน ก็เลยแจ้งไกด์ท้องถิ่นให้พาไป แล้วก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ ค่ะ เพราะได้เจอทั้งฉลาม เต่าทะเล โลมาและปลากระเบนราหูแบบใกล้ชิดสุด ๆ นอกจากนี้ปะการังรอบ ๆ เกาะยังสวยมาก เป็นจุดดำน้ำที่เราประทับใจที่สุดแล้ว
เหนื่อยจากการดำน้ำในแต่ละวัน ทางรีสอร์ทก็มีทั้งสปาและห้องนันทนาการให้บริการ พักผ่อนสบาย ๆ ที่ล็อบบี้ฟังเสียงลมทะเล หรือจะไปเดินเล่นชิลล์ ๆ ใกล้ ๆ ที่พักก็มีป่าชายเลน (ปูเยอะมาก) ซากฐานทัพอังกฤษและทะเลสาบให้ไปเก็บภาพสวย ๆ กันในอีกมุม
ส่วนอาหารของรีสอร์ทก็รสชาติอร่อยฝากท้องได้ทั้ง 3 มื้อแบบไม่ต้องกังวล ให้บริการทั้งบาร์เครื่องดื่ม บุฟเฟต์อาหารตะวันตก เอเชีย และที่เราชอบที่สุดก็คือ “อาหารรสชาติท้องถิ่น” แท้ ๆ ที่เราตั้งใจมาชิมโดยเฉพาะ เป็นรสชาติจากเชฟท้องถิ่นที่ปรุงด้วยใจและรอยยิ้ม ทำให้เราทั้งอิ่มอร่อยและมีความสุข เป็นการเติมพลังจากการเที่ยวหนัก ๆ ในแต่ละวันได้ดีเลยล่ะค่ะ
ก่อนกลับเราใช้เวลาทั้งวันปั่นจักรยานชมเกาะ เยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวเกาะแกนที่ยังคงความเป็น Local อยู่สูงมาก เงียบสงบและมีบรรยากาศสไตล์มัลดีฟส์ท้องถิ่นแบบที่หาได้ยาก แน่นอนว่าเราก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพความประทับใจเหล่านั้นเอาไว้อย่างเต็มที่ไปเลยค่ะ
3. เกาะ Thoddoo Island เก็บบรรยากาศสไตล์ Local ที่ Serene Sky Guest House
Thoddoo Island เป็นเกาะขนาดเล็กอยู่ทางตะวันตกของเกาะหลักมาเล่ อยู่ใน Ari Atoll สามารถเดินทางมายังที่พักของเรา Serene Sky Guest House ด้วย Speedboat โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ที่พักเป็นเกสต์เฮ้าส์เรียบง่าย แต่สะอาดและสบายตาสบายใจด้วยโทนสีขาวกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ จุดเด่นคือกำแพงที่ตกแต่งทรงเกลียวคลื่น น่ารักดีค่ะ ห้องพักกว้าง ไม่อึดอัดและแน่นอนว่ามาพร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกในห้องพักครบครัน
ถึง Thoddoo Island แห่งนี้จะเป็นเกาะ Local ขนาดเล็ก แต่กิจกรรมนั้นสนุกไม่แพ้เกาะอื่น ๆ เลยค่ะ เริ่มจากทัวร์ชิมผลไม้ที่มีไกด์เป็นคนท้องถิ่นที่คอยให้คำแนะนำทั้งความเป็นมา การเตรียมผลไม้แต่ละประเภท กระบวนการปลูก เก็บเกี่ยวไปจนถึงการวางขายในตลาด เลือกชิมผลไม้สดอร่อยได้จากต้น สนุกทั้งการได้พูดคุยกับไกด์และการเลือกชิมผลไม้ที่เราสนใจได้แบบอิสระ
ถ้าทัวร์ชิมผลไม้ยังไม่จุใน ที่นี่เขามี “ทัวร์เก็บผักท้องถิ่นประจำเกาะ Thoddoo” ค่ะคุณ! โดยที่เราจะได้เลือกชิม เลือกเก็บผักท้องถิ่นของเกาะแบบสด ๆ ด้วยตัวเองพร้อมกับไกด์ และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือหลังจบการทัวร์จะมีการนำผักที่เราเก็บมาไปปรุงเป็นเมนูพิเศษ รสชาติอร่อยแบบท้องถิ่นแท้ ๆ ไม่ว่าจะเป็นสลัดผักสดหรือเมนูอื่น ๆ ทั้งสนุกและอิ่มอร่อยไปในทัวร์เดียว
นอกจากทัวร์สไตล์ Local สนุก ๆ บนเกาะแล้ว แน่นอนว่าเรื่องกิจกรรมทางน้ำก็ไม่น้อยหน้าใคร ซึ่งเราก็จัดเต็มเหมือนเคยทั้งการดำน้ำดูปะการังและบรรดาสัตว์ทะเล คลื่นที่นี่ค่อนข้างสงบทำให้การดำน้ำไม่ยาก ดำได้สนุกและเพลินมาก สำหรับใครไม่อยากดำแบบ Scuba ก็มีอุปกรณ์ Snorkeling และเจ้าหน้าที่ดูแลแบบใกล้ชิดค่ะ วิวใต้ทะเลนั้นประทับใจไม่แพ้ที่อื่นเลยจริง ๆ นอกจากนี้ยังมีกีฬาทางน้ำสนุก ๆ อีกเยอะ ที่เราได้ลองก็มี สกีน้ำ, เวคบอร์ด, เรือใบ (เล่นแบบไม่ค่อยเป็นแต่มีเจ้าหน้าที่สอนค่ะ) และที่ขาดไม่ได้ก็เรือกล้วย Banana Boat นี่ล่ะค่ะ เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากเพื่อนร่วมทริปได้แบบเต็มที่ไปเลย
ทั้ง 3 เกาะเป็นเกาะ Local ที่เราสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น เป็นมิตร และได้ทั้งประสบการณ์ดี ๆ มากมายที่แตกต่างไปจากการเที่ยวสไตล์หรู ใครที่เบื่อการเที่ยวมัลดีฟส์แบบหรูหรา หรืออยากลองมาเที่ยวสนุก เพลิดเพลินกับวิวฟ้าใส ทะเลสีคราม ในงบประมาณที่เอื้อมถึง และยังได้สัมผัสกับบรรยากาศความเป็น Local แท้ ๆ ล่ะก็ ยังไงก็ลองนำรีวิวของเราไปเป็นแนวทางกันได้นะคะ ขอบอกเลยว่าทั้งสนุก ประทับใจและติดใจจนต้องอยากกลับไปเที่ยวสไตล์ Local อีกครั้งจริง ๆ