สวัสดีครับเพื่อน ๆ นักเดินทางทุกท่าน วันนี้ผมมีรีวิวทริปเกาะในฝัน หนึ่งในสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนอยากลองไปสักครั้งในชีวิตอย่างมัลดีฟส์มาฝาก พร้อมรีวิวที่พักและกิจกรรมไฮไลท์ รวมสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ขอบอกเลยว่างานนี้ ได้เที่ยวแบบหรูหราในราคาเบากว่าที่คิด ลองมาติดตามกันได้เลยนะครับ
การเดินทางครั้งนี้ผมใช้เวลาในทริปทั้งหมด 3 วัน 2 คืน ทำการจองทั้งเครื่องบินและที่พักพร้อมแพ็คเกจแบบ All inclusive ไปแล้วเรียบร้อยตั้งแต่อยู่ที่ไทย โดยรีสอร์ทที่เลือกเป็นที่พักตลอดทริปนี้ก็คือ “Centara Ras Fushi” รีสอร์ทชื่อที่หลายคนอาจจะคุ้นหู เพราะเป็นรีสอร์ทหนึ่งในเครือเซนทารานั่นเองครับ
ขอข้ามในส่วนของการเดินทางที่นั่งเครื่องบินตรงมามัลดีฟส์ในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง พร้อมบริการสปีดโบ้ทมาที่รีสอร์ทไปเลยนะครับ โดยเมื่อเรานั่งเรือของที่พักมาจนถึงรีสอร์ทแล้ว ความประทับใจแรกเลยก็คือ “สวย หรู เงียบสงบ” น้อง ๆ พนักงานที่นี่ยิ้มแย้มแจ่มใสบริการดีและเป็นกันเองมาก ส่วนห้องที่จองไว้คือห้องแบบ Deluxe Sunset Overwater Villa
ต้องบอกก่อนเลยนะครับว่า ครั้งแรกที่เดินตามน้อง ๆ ไปที่ห้องพักนี่ถึงกับตื่นเต้นมาก ๆ เพราะเป็นห้องแบบกลางทะเล ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมจะได้มีประสบการณ์นอนกลางน้ำทะเลแบบนี้ แถมวิวทะเลที่นี่ก็ขอบอกว่าสวยมากจริง ๆ น้ำใสสุดลูกหูลูกตา มองทั้งวันก็ไม่เบื่อครับแบบนี้
ในห้องตกแต่งแบบเรียบง่าย เตียงใหญ่ เครื่องใช้อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบ มีระเบียงส่วนตัวและเก้าอี้ที่ระเบียงไว้ให้พร้อม นอนดูพระอาทิตย์ตกชิลล์ ๆ ไปอีกเรื่องความเป็นส่วนตัวไม่ต้องพูดถึง ที่ระเบียงเค้ามีฉากกั้น แต่ยังไงระเบียงห้องของเราก็ไม่หันหน้าชนกับห้องอื่น ๆ อยู่แล้วครับ หมดห่วงเรื่องนี้ได้เลย ส่วนใครที่กลัวร้อนก็ไม่ต้องห่วงครับ ในห้องมีแอร์ไว้พร้อมบริการ หรือจะเปิดพัดลมก็ได้ตามสะดวก
หลังจากพูดคุยและเดินสำรวจสถานที่ต่าง ๆ ในรีสอร์ทตามที่น้องพนักงานแนะนำเรียบร้อยงานนี้ก็ขอเล่นน้ำก่อนเลยล่ะครับ ลงน้ำมันตรงหน้าห้องนั่นล่ะ ว่ายน้ำจนพอใจก็ขึ้นมาล้างเนื้อล้างตัว จากนั้นก็ขอไปร่วมกิจกรรมแรกกับทางรีสอร์ทนั่นก็คือ การให้อาหารปลานั่นเองครับ ซึ่งขอบอกเลยว่าตื่นตาตื่นใจมาก เพราะเราได้ใกล้ชิดกับปลาหลากหลายสายพันธุ์แบบใกล้ชิดจริง ๆ เพราะเป็นสะพานไม้ริมน้ำและเป็นพื้นที่ของทางรีสอร์ทเอง
นี่แค่วันแรกก็ได้เจออะไรน่าตื่นเต้นขนาดนี้แล้ว กิจกรรมนี้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ผมก็ดูปลาจนเพลิน เก็บรูปกันแบบรัว ๆ จากนั้นก็ถึงเวลาทานอาหารเย็นที่ห้องอาหารของรีสอร์ท อิ่มอร่อยหลับฝันดีไปครับวันแรกของการเดินทาง พร้อมลุยกิจกรรมในวันที่สองแบบเต็มที่ การได้นอนพักผ่อนฟังเสียงลมทะเลโดยที่เราเหมือนได้นอนอยู่กลางทะเลจริง ๆ แบบนี้เป็นเรื่องแปลกใหม่มากครับ แต่ขอบอกว่ารู้สึกดีสุด ๆ ทั้งผ่อนคลายและสงบ สมกับที่ตั้งใจมาเที่ยวเพื่อพักผ่อนจริง ๆ
มาถึงวันที่สอง ขอเริ่มต้นด้วยการดำน้ำเลยครับ โดยผมได้เลือกโปรแกรมไปดำน้ำดูปลาฉลามซึ่งเป็นกิจกรรมที่ผมตั้งใจมาทำโดยเฉพาะ เพราะได้ยินกิตติศัพท์ของฉลามมัลดีฟส์มาดีว่าเราสามารถเข้าไปใกล้ชิดกับเค้าได้โดยที่เค้าไม่ทำอันตรายเรา ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่ได้ยินมาครับ โดยเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเราก็จะสอนวิธีใช้อุปกรณ์ดำน้ำให้ และผมก็ว่ายน้ำเป็นอยู่แล้วเลยไม่มีขั้นตอนอะไรมาก เมื่อพร้อมแล้วก็นั่งเรือไปยังจุดที่จะดำ เตรียมพร้อมแล้วก็ลงน้ำกันเลย ความรู้สึกที่เราได้ใกล้ชิดฉลามพวกนี้ขอบอกเลยว่าทั้งตื่นเต้น ตอนแรกก็แอบกลัว แต่พอรู้ว่าเค้าไม่สนใจเราเลยจริง ๆ ก็เริ่มกล้าขึ้นละครับ แค่เราไม่ไปวุ่นวายอะไรกับเค้ามากก็พอ ปล่อยให้เค้าว่ายน้ำหากินไป ส่วนเราก็ดูอยู่ใกล้ ๆ ก็พอ แต่ผมก็ยังแอบเซลฟี่ไปหลายรูปเลยล่ะ
จากดำน้ำดูปลาฉลามที่กินเวลาช่วงเช้าไปทั้งหมดก็มาแวะเติมพลังที่รีสอร์ทกันก่อน จากนั้นช่วงบ่ายก็ไปลุยกันต่อกับการดำน้ำดูเต่าทะเล ตั้งใจว่าจะมาสัมผัสสัตว์ทะเลแบบใกล้ชิดก็ต้องลุยกันหน่อยใช่ไหมล่ะครับ ซึ่งกิจกรรมนี้ก็ประทับใจอีกแล้ว เพราะเจอทั้งเต่าและปลาทะเล แถมใต้ทะเลมัลดีฟส์ยังสวยและอุดมสมบูรณ์มาก
แม้จะเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมจากคนทั่วโลก แต่ทะเลที่นี่ยังคงความงามตามธรรมชาติไว้ได้ดีเยี่ยมจริง ๆ ไม่ผิดหวังเลยครับ และนี่ก็เป็นอีกกิจกรรมที่ผมประทับใจ เพราะนอกจากเจ้าหน้าที่จะดูแลดีแล้ว เรายังได้เห็นสัตว์ทะเลตามธรรมชาติแบบใกล้ชิดสมกับที่ตั้งใจมาเพื่อการนี้จริง ๆ เลยล่ะ
ช่วงเย็นหลังกลับรีสอร์ทว่าจะไปดูการกันอีกรอบแต่ก็หมดแรงซะก่อน เลยแวะไปอาบน้ำแล้วนอนพักที่ห้องซะหน่อย ฟังเสียงลมเสียงคลื่นไปจนเคลิ้มหลับได้ไม่ยาก ลุยดำน้ำทั้งเช้าเย็นขอบอกว่าเพลียมากแต่ก็สนุกมากจริง ๆ ครับ ส่วนมื้อค่ำก็ฝากท้องกับทางรีสอร์ทแบบชิลล์ ๆ เพราะซื้อแพ็คเกจที่รวมอาหารทุกมื้อไว้อยู่แล้ว
ใช้ชีวิตสโลไลฟ์จนถึงวันเดินทางกลับ หลังจากเช็กเอาท์แล้วก็เดินทางกลับเกาะหลักเพื่อไปสนามบินด้วยสปีดโบ้ทของทางรีสอร์ท โดยรวมประทับใจตั้งแต่ต้นจนจบทริป โดยเฉพาะการตัดสินใจเลือกแพ็คเกจ All inclusive ของรีสอร์ท Centara Ras Fushi มาเรียกได้ว่าคุ้มจริงครับ ได้นอนกลางทะเล ห้องพักหรู พร้อมบริการอาหารสามมื้อและเครื่องดื่มไม่อั้นตลอดเวลาที่เข้าพัก ในราคารวมแล้วแต่ประมาณ 29,000 บาทเท่านั้น ใครที่กำลังมองหาทริปพักผ่อนนอนชิลล์กลางทะเลแบบผมก็ลองหาข้อมูลและลองมาเที่ยวมัลดีฟส์กันดูนะครับ ไม่ต้องใช้เวลาหลายวัน ไม่ต้องใช้งบเยอะ ๆ ก็สนุกและได้พักรีสอร์ทหรูได้ แถมได้เก็บความทรงจำดี ๆ กลับไปแบบเต็มที่แน่นอนครับ