มัลดีฟส์ เป็นชื่อสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเกาะ ที่ได้มีผู้คนจำนวนมากกล่าวถึงกันมาโดยตลอด ด้วยลักษณะความสวยงาม บรรยากาศที่มีความเป็นทะเลแบบสุด ๆ เกินจะบรรยาย มองไปทางไหนก็สวยนะครับ และยิ่งใครได้มีโอกาสไปเยือนมัลดีฟส์กับคนรู้ใจอีกด้วย แช๊ะ! ภาพสักสองสามใบเอาลงโซเซียลอวดเพื่อน ๆ คงจะต้องอิจฉาตาร้อนกันเป็นแถบเลยทีเดียวนะครับ จึงไม่แปลกที่มัลดีฟส์จะเป็นจุดหมายปลายทางของคู่รักหลายคู่ ที่จะเลือกสถานที่แห่งนี้เป็นที่ฮันนีมูน สุดโรแมนติก หรืออาจะทำเซอไพรส์คุณแฟนกันเอาไว้บ้าง ซึ่งหากคู่ไหนที่มีแพลนอยากทำบ้าง แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบเอาไว้ให้แล้วครับ แน่นอนว่าจากประสบการณ์ตรงของผม เมื่อถึงคราวเซอไพรส์คุณภรรยาด้วยทริปมัลดีฟส์นั่นเอง

มาเริ่มต้นการเดินทางไปมัลดีฟส์กันเลยนะครับ อย่างแรกก็จะต้องเคลียร์งาน เคลียร์คิวให้ว่างกันเสียก่อน จากนั้นก็เริ่มวางแผนการเดินทางกันได้เลย ซึ่งพวกเราสามารถใช้บริการเอเจนท์ที่เราจองที่พักหรือจองจากเว็บสายการบินได้เลยครับ ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมงก็จะถึงท่าอากาศเวลานา ซึ่งเป็นสนามบินหลักของประเทศมัลดีฟส์ หลังจากผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ตามปกติของสนามบินแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ยืนชูป้ายรีสอร์ทที่เราจองไว้เพื่อพาเราไป check in speedboat และพาเราไปยังเกาะของที่ตั้งรีสอร์ท (อย่างผมเลือกจองที่ Centara Grand Island Resort & Spa รีสอร์ทระดับ 5 ดาว มาฮันนีมูนทั้งทีผมก็อยากลงทุนนิดนึงเนอะ จัดเต็มกันหน่อย) จากนั้นก็นั่ง Seaplane มารีสอร์ทใช้เวลาแค่ 20 นาทีเท่านั้นครับ คุณแฟนนี่ยิ้มแก้มปริเพราะทะเลสวยมากจริง ๆ เวลาที่ใช้เดินทางกลายเป็นผ่านไปเร็วแบบไม่รู้ตัวเลย

เราเลือกจองแพ็คเกจ All Inclusive เอาไว้เลย คือ อาหาร เครื่องดื่ม กินดื่มกันไม่อั้น มีเล้าจ์บริการเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องห้องพักเลือกไว้เป็นห้องพักกลางน้ำ

ห้องจัดแต่งอย่างโรแมนติกเลยครับ เงียบ สงบ สะอาดตา บรรยากาศผ่อนคลายและเป็นส่วนตัวมากจริง ๆ เรียกได้ว่าเป็นวิมานน้อย ๆ ของคู่รักเลยนะครับ ตรงระเบียงค่อนข้างกว้าง มีที่นั่งเล่นริมระเบียงด้วย กะไว้ว่ากลางคืนคงมานอนดูดาวกับแฟนได้หรือชมบรรยากาศฟิน ๆ ของมัลดีฟส์กันแบบสุดลูกหูลูกตากันเลย

ส่วนเรื่องอาหารการกิน เนื่องจากเป็นแบบ All Inclusive เราจึงสามารถเข้ารับประทานได้ที่ห้องอาหารได้ทุกมื้อ ซึ่งที่ Centara Grand Island Resort & Spa นี้มีห้องอาหารให้เลือกถึง 3 ห้อง 3 สไตล์! เลือกทานกันไม่ถูกเลยทีเดียว แถมใครกลัวจะคิดถึงอาหารไทยที่นี่เค้าก็มีห้องอาหารไทยไว้บริการด้วยนะครับ ส่วนเรื่องเครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็นซอฟท์ดริงค์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็รวมอยู่ในแพ็คเกจแล้ว เดินกินดื่มพักผ่อนแบบชิลล์ ๆ กันไป หมดห่วงเรื่องปากท้องสำหรับข้าวใหม่ปลามันตลอดทริป

สำหรับใครที่คิดว่าผมจะพาแฟนมานอนชิลล์ริมทะเลเสพบรรยากาศโรแมนติกเฉย ๆ ก็ผิดนะคร๊าบ เพราะทางรีสอร์ทจัดกิจกรรมไว้ให้เราร่วมสนุกกันแบบไม่เบื่อเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นกีฬากลางแจ้งอย่างเทนนิสหรือฟิตเนส สระว่ายน้ำกลางแจ้งก็มีพร้อม แต่แบบผมนี่ต้องลากคุณแฟนไปว่ายน้ำ ดำน้ำตื้น ไม่ก็เล่นเซิร์ฟเลยครับ ที่นี่ปะการังน้ำตื้นเยอะ แถมมีปลาทะเลสวย ๆ เยอะมาก นอกจากนี้ใครที่อยากลองประสบการณ์ดำน้ำลึกหรือผ่อนคลายเบา ๆ ที่สปาทางรีสอร์ทก็มีให้บริการครบครันจริง ๆ ปิดท้ายก่อนเข้านอนด้วยการเดินเล่นรอบรีสอร์ทในบรรยากาศสงบ ๆ ผ่อนคลายจากที่เที่ยวเล่นสนุกกันมาทั้งวัน เป็นความรู้สึกโรแมนติกแบบบอกไม่ถูกสำหรับเราทั้งสองคนเลยครับ

แต่ที่พิเศษและผมแอบเตรียมไว้เซอไพรส์แฟนจริง ๆ คือไม่ได้บอกก่อนเลยก็คือ Private Dinner โดยแจ้งกับทางรีสอร์ทเอาไว้ล่วงหน้าแล้วครับ ใครที่มาฮันนีมูนขอบอกเลยว่าต้องลองประสบการณ์นี้สักครั้ง โดยเราจะได้ทานอาหารเย็นรสเลิศในบรรยากาศช่วงอาทิตย์ตก นั่งดื่มนั่งทานอาหารยาวไป พอตกกลางคืนจากบรรยากาศแสงแดดยามเย็นก็กลายเป็นท้องฟ้าให้นับดาวเล่น ขอบอกว่าโรแมนติกมาก ๆ ครับ แม้แต่ผมที่เป็นผู้ชายยังมีความสุขแบบบอกไม่ถูก คงไม่ต้องพูดถึงว่าแฟนผมนี่จะมีความสุขแค่ไหนกับเซอไพรส์เล็ก ๆ นี้

เวลาที่นี่ผ่านไปไวเหมือนโกหกเลยครับ เผลอแปปเดียวก็ถึงเวลาต้องกลับกันแล้ว แต่แน่นอนว่าทั้งประสบการณ์ ความประทับใจและความสุขที่ครั้งนึงเราสองคนได้เดินทางมาฮันนีมูนที่มัลดีฟส์จะกลายเป็นความทรงจำที่พวกเราไม่มีวันลืมแน่นอนครับ โดยเฉพาะคุณแฟนที่ยิ้มหน้าบานตลอดทริปจากเซอไพรส์เล็ก ๆ ของผมในครั้งนี้ ใครที่กำลังหาของขวัญเซอไพรส์แฟน หรือมองหาสถานที่ฮันนีมูนกันอยู่ล่ะก็ มัลดีฟส์คือหนึ่งในตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาดจริง ๆ ครับ คุ้มค่าทั้งความสุขและประสบการณ์ที่ได้จริง ๆ ครับ